ประวัติความเป็นมาของมันหวาน

มันหวานหรือมันเทศมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่บริเวณเขตร้อนของทวีปอเมริกา มนุษย์รู้จักปลูกมันหวานมานานนับพันปี ในสมัยโบราณนั้นมันหวาน เป็นอาหารหลักของมนุษย์สองเขต

-พวกอินเดียน ในอเมริกากลาง และบริเวณเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู พวกอินเดียนทั้งสองแหล่งนี้ปลูกข้าวโพด เพื่อใช้เป็นอาหารหลัก และในขณะเดียวกันก็ปลูกมันหวานด้วย

-ชนเผ่าโพลิเนเชียน เชื่อกันว่ามันหวานที่ปลูกกันในสมัยก่อนนั้น นำมาจากทวีปอเมริกาในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๖ หลังจากชาวยุโรปค้นพบทวีปอเมริกา นักสำรวจชาวสเปน ได้นำมันหวานไปสู่ประเทศสเปน จากประเทศสเปน ก็แพร่ต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป สืบต่อมายังทวีปเอเชีย 4 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ อินเดีย ฟิลิปินส์ จีน และญี่ปุ่น

ประวัติมันหวานเบนิฮารุกะ

มันหวานสายพันธุ์ยอดนิยม “Beni Haruka” (เบนิ ฮารุกะ) จากเมือง Ibaraki ประเทศญี่ปุ่นโดยตรง

"จังหวัดอิบารากิ“ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขตคันโต และมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่กลางของหมู่เกาะญี่ปุ่น ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลาดเอียง สำคัญพื้นที่ในเขตนี้จะมีดินสีแดง ที่มีคุณสมบัติในการระบายน้ำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคร็อคโค (Rokko) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการปลูกมันหวานญี่ปุ่น

อิบารากิเป็นจังหวัดที่มีการผลิตมันหวานที่สำคัญมากแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ทั้งในแง่ของพื้นที่การผลิต และปริมาณการผลิต อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการจัดเก็บที่ล้ำสมัย ที่จะช่วยให้สามารถจัดส่งมันหวานที่มีคุณภาพ และสดใหม่เหมือนพึงเก็บออกมาจากสวน ส่งถึงมือลูกค้าทั่วโลกได้ตลอดทั้งปี จนมันหวานญี่ปุ่นจากอิบารากิ ขึ้นชื่อว่าเป็น มันหวานที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เลยก็ว่าได้

เพราะนอกจากภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการปลูกแล้วนั้น ยังมีการควบคุมคุณภาพที่ดีในระหว่างการเจริญเติบโตของมัน และที่สำคัญจะใช้เฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ในการบำรุงเท่านั้น เบนิฮารุกะ ถูกจดทะเบียนชื่อพันธุ์เมื่อปี ค.ศ. 2010

จุดเด่น ที่ทำให้ใครหลายคนต้องติดใจอยู่ที่เนื้อมันมีรสชาติหวาน เนื้อเนียน นุ่ม หนึบ เมื่ออบจนสุกได้ที่แล้วจะมีกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์

ประโยชน์ของมันหวาน

หากร่างกายขาดวิตามิน เอ อาจเสี่ยงเผชิญภาวะอาการป่วยที่เป็นอันตรายได้ ในมันเทศอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ โดยเฉพาะมันเทศสีเหลือง หรือสีส้ม การรับประทานมันเทศ 100 กรัม ทำให้ได้รับวิตามินเอในปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันอย่างเพียงพอแล้ว

วิตามิน เอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยด้วยโรคและอาการบางชนิด

ถึงแม้ว่ามันหวานจะมีส่วนประกอบหลักคือแป้ง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของน้ำตาล แต่ตัวมันหวานเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือจะค่อย ๆ ย่อยและเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ขึ้นสูง และกระตุ้นอินซูลิน

มันหวานมีวิตามินเอและวิตามินซีเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระและการชะลอวัย

มันหวานเป็นแหล่งของหวานชั้นดี เพราะมีรสหวานกว่ามันชนิดอื่นๆ แต่ความดีงามอยู่ที่ดัชนีน้ำตาลที่ต่ำ เพราะหลังจากที่ร่างกายเราย่อยและดูดซึมสารอาหารเข้าไปแล้ว น้ำตาลจะไม่ถูกดูดซึมเข้าเส้นเลือดเราได้มากเท่ากับอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง มันหวานจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน

มันหวานยังอุดมไปด้วยวิตามินดี ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและภูมิต้านทานในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้ร่างกายเรารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง ให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายอีกด้วย

ทานช่วงไหนได้ประโยชน์สูง

กินแทนอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันช่วยลดน้ำหนักได้

สำหรับวิธีนี้คือการกินมันเทศแทนอาหารหลักประเภทอื่นๆ โดยเลือกแทนในมื้อใดมื้อหนึ่งเพียงแค่หนึ่งมื้อต่อวัน แต่เนื่องจากกระเพาะอาหารจำเป็นต้องใช้เวลาในการย่อยมันเทศ จึงแนะนำให้กินมันเทศแทนข้าวเปล่าในมื้อเช้าหรือไม่ก็มื้อกลางวัน หรือถ้าหากจะกินในมื้อเย็นก็ควรกินมันเทศก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง

อีกทั้งในช่วงเช้าและช่วงกลางวัน ระบบการเผาผลาญในร่างกายจะทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเหมาะที่จะย่อยและเผาผลาญพลังงานจากมันหวาน ปริมาณที่แนะนำต่อ 1 วันคือ มันหวานน้ำหนัก 150 กรัม อย่างมากก็ไม่ควรเกิน 250 กรัม

วิธีการลดความอ้วนด้วยการกินมันเทศนั้น จะต่างกับวิธีการลดความอ้วนแบบอดอาหารหรือควบคุมอาหารเนื่องจากวิธีนี้จะปล่อยให้ร่างกายค่อยๆ ปรับและลดน้ำหนักลงเองตามธรรมชาติ ดังนั้นในช่วงแรกอาจจะยังไม่เห็นผล

วิธีเลือกมันหวานที่ดีอย่างง่ายๆ

ถ้าเป็น 30 – 40 ปีก่อน ชาวญี่ปุ่นจะนิยมเลี่ยงมันหัวเล็กๆ ขนาดประมาณ 100 – 150 กรัม เพราะคิดว่าไม่ค่อยอร่อย แต่เทคนิคการปลูกและการพัฒนาสายพันธุ์ของเกษตรกร ทำให้ขนาดไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป หยิบไซส์ไหนก็อร่อยหวานเท่าเทียมกัน

ส่วนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกนั้นสำคัญมาก ผิวมันควรเรียบเนียนสม่ำเสมอ รูปทรงโค้งสวยไม่หยิกงอ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หากอยากได้มันที่รูปทรงสวย อวบเนียนเป็นท่อน ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน เช่น ดินที่ไม่มีแมลง ไม่แข็งเกินไป แต่ถึงแม้ผิวมันจะมีรอยถลอกบ้าง แต่ความอร่อยก็ไม่เปลี่ยนแปลง

สูตรวิธีการทำมันหนึบจากมันหวานญี่ปุ่น สูตรHome Made

ส่วนผสม

สำหรับ 1.5 kg มันหวานญี่ปุ่น 8 หัว

วิธีทำ

1.นำมันหวานญี่ปุ่นปล้างให้สะอาดทั้งเปลือก แล้วซับน้ำให้แห้ง

2.นำมันหวานลงไปนึงประมาณ 20 นาที พอสุกแล้ว นำขึ้นมาพักไว้ให้เย็น

3.ลอกเปลือกทิ้ง แล้วนำมาหันเป็นแท่ง ขนาดยาวประมาณ 2 นิ้ว

(เคล็ดลับ: ระวังอย่าจับมันแรงจนเละ เดี๋ยวอบออกมาจะไม่สวย)

4.นำมันหวานที่หั่นเป็นแท่งแล้ว ไปอบด้วยอุณหภูมิ 140c เป็นเวลา 15-20 นาที โดยใช้หม้ออบลมร้อน หรือเตาอบก็ได้ หรือหากมีเครื่อง Fruit Dryer ก็จะยิ่งออกมาหนึบอร่อยมาก

(เคล็ดลับ: หากไม่มีเครื่อง จะใช้ตากแดดจัดๆ แทนก็ได้ / หากชอบมันกรอบ อบด้วยอุณหภูมิ140c เป็นเวลา 40 นาที ก็จะได้มันกรอบแท่ง อร่อยได้อีกแบบ)

5.หลังจากอบเสร็จ นำมาพักให้เย็นก่อนเก็บใส่ภาชนะ ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้นอกตู้เย็นได้ประมาณ 2 สัปดาห์ เก็บในตู้เย็นได้หลายเดือน

เกี่ยวกับเรา

เราคัดสรรจากผลไม้อบแห้งที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่บริสุทธิ์โดยไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งอื่น ๆ

ติดต่อเรา

บริษัท ซีแอล เนเชอรัล (ประเทศไทย) จำกัด 386/18 หมู่2 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 90240
092 182 1911